วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Nokie

Asia Pacific



โนเกีย เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 10 ปี ปัจจุบันเป็นผู้นำในธุรกิจอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย โดยเป็น
ผู้บุกเบิกและผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาธุรกิจบริการการสื่อสารไร้สายในประเทศไทย รวมทั้งการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
โนเกียเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์เสริม และโซลูชั่นเพื่อการสื่อสารไร้สาย โนเกียเป็นที่ยอมรับมากในด้านความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนานวัตกรรม และประสิทธิภาพทั้งที่เกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ คุณสมบัติการใช้งาน กลยุทธ์และกิจกรรมการตลาด บริการ และการจัดจำหน่าย สำหรับในประเทศไทย โนเกียได้จัดแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มอุปกรณ์มัลติมีเดียไร้สาย และกลุ่มโซลูชั่นเพื่อองค์กร เพื่อให้โนเกียสามารถดำเนินและพัฒนาธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และมีความพร้อมมากขึ้นในการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ โนเกียยังได้ทำงานร่วมกับคู่ค้าและผู้ให้บริการระบบในประเทศ เพื่อที่จะนำเสนอบริการที่สร้างสรรค์และเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าชาวไทย สอดคล้องกับวิถีชีวิตและช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถใช้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งได้อย่างเต็มที่ ความสามารถเหล่านี้ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้โนเกียครองความเป็นแบรนด์ชั้นนำในใจของ
ผู้บริโภคชาวไทย
นอกจากการพัฒนาในด้านธุรกิจแล้ว โนเกียยังให้ความสำคัญกับการร่วมพัฒนาสังคม เพราะโนเกียเชื่อว่าธุรกิจและสังคมจะต้องพัฒนาไปพร้อมกัน ดังนั้นในฐานะองค์กรที่เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม โนเกียได้ให้การสนับสนุนและ ริเริ่มโครงการเพื่อสังคมหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น “โครงการเสริมสร้างทักษะชีวิตเยาวชนไทย: สานสายใยเพื่อสังคม” ซึ่งโนเกียดำเนินการร่วมกับมูลนิธิเยาวชนนานาชาติ และสภาองค์การพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตและพัฒนาอาชีพ และการสร้างโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งจะช่วยให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสเรียนรู้ เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความสามารถและตระหนักในความรับผิดชอบต่อการพัฒนาสังคมต่อไป

ที่มา
http://www.nokia.co.th/about-nokia/company

History of nokie

History of Nokia
ความเป็นมาของเจ้าแห่งการสื่อสารไร้สาย



ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ภาพของนักธุรกิจเช็คอีเมล์ เด็กวัยรุ่น
ฟังเพลง MP3 สาวอินเทรนด์ท่องเว็ปช๊อปปิ้งโดยทุกอย่างนี้ทำได้โดยตรงจากโทร
ศัพท์มือถือ ดูแล้วอาจจะเหมือนภาพของภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จริง
แต่ในวันนี้กลับเป็นเรื่องที่แสนธรรมดา และสิ่งเหล่านี้พัฒนาขึ้นได้อย่างรวดเร็วส่วน
หนึ่งจากฝีมือของผู้นำทางด้านโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่...โนเกีย

ทุกวันนี้ สโลแกน "Connecting People" ได้เปิด
ประตูสู่โลกของโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไร้สายให้แก่โนเกียอย่างแท้จริง ไม่มีใครไม่
รู้จักบริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของสโลแกนนี้กับโทรศัพท์มือถือประทับแบรนด์โนเกียที่หลาย ๆ
คนกำลังถืออยู่ในมือ แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ถึงความเป็นมาของโนเกียนั้นเป็นอย่างไร ก่อน
ที่จะเป็นบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือยอดนิยมที่ติดอันดับขายดีที่สุดของโลกอย่างเช่นในทุก
วันนี้นั้น เชื่อหรือไม่ว่าโนเกียเคยเป็นโรงงานผลิตกระดาษ ยางไม้ และสายเคเบิ้ลมาก่อน
ลองมาทำความรู้จักกับอุปกรณ์สื่อสารที่คุณถืออยู่ในมือให้มากยิ่งขึ้นกันดีกว่า



กำเนิดโนเกีย

โนเกียไม่ได้เริ่มธุรกิจด้านอิเล็กทรอนิคเป็นพื้นฐานอย่างแรกของบริษัท
แต่ได้เปิดบันทึกหน้าแรกของประวัติาศาสตร์ด้วยการเป็นผู้ผลิตเยื่อกระดาษ โดยมีวิศวกร
Fredrik Idestam เป็นเจ้าของ

ย้อนเวลากลับไปยังปี ค.ศ. 1865บริษัทโนเกียได้ก่อตั้งขึ้นบนริม
ฝั่งแม่น้ำ Nokia (โนเกีย) แม่น้ำสายใหญ่ในประเทศฟินแลนด์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่
อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ และทะเลสาบนับว่าเป็นดินแดนที่เหมาะสมอย่างมากในการ
ทำธุรกิจเยื่อกระดาษในย่านนี้ และกลายมาเป็นโรงงานผู้ผลิตเยื่อกระดาษรายใหญ่ที่เติบ
โตอย่างรวดเร็ว แต่น่าเสียดายที่ Idestam ยังมีประสบการณ์ไม่เพียงพอใน
การทำงานด้านธุรกิจ จึงจำเป็นต้องหยิบยืมเทคโนโลยีมาจากประเทศเยอรมันในปี
1866 แต่นั่นก็ช่วยทำให้เขาพัฒนาบริษัทขึ้น

ต่อมาในปี 1867 นวัตกรรมที่ Idestam คิดค้นขึ้นก็ได้
ชนะรางวัลเหรียญทองแดง ในงาน Paris Wood Exposition
ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นับแต่วันนั้นมา ชื่อของโนเกียได้กลายมาเป็นที่รู้จัก โนเกีย
จึงได้ฉวยโอกาสนี้ประทับแบรนด์ของเขาบนผลิตภัณฑ์ทุกชนิด สร้างชื่อเสียงได้มากขึ้น
จนกระทั่งเครื่องผลิตกระดาษได้เข้ามามีบทบาทในการผลิตเยื่อไม้ในปี 1880 และ
ได้มาเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของโนเกีย จนเรียกได้ว่าร้อยละ 80 ของผลิตภัณฑ์นั้น
คือ กระดาษห่อสีน้ำตาล รวมไปถึงวอลเปเปอร์สี

ต่อมาในปี 1902 Idestam ได้ขยายธุรกิจจากโรงงาน
กระดาษมาสู่ธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจกระดาษที่ทำอยู่มีการใช้
พลังงานไฟฟ้าค่อนข้างมาก จึงได้ตัดสินใจสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขึ้นเองในปี 1903
แต่แล้วในช่วงสงครวมโลกครั้งที่ 1 มรสุมใหญ่ก็ผ่านเข้ามา ธุรกิจส่งออกกระดาษ
ของโนเกียได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจนประสบภาวะาขาดทุนอย่างรุนแรง แต่
ในขณะเดียวกันนั่นเองธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้ากลับเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะการ
ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นมากในประเทศฟินแลนด์ ทำให้ช่วยพยุงกิจการด้าน
กระดาษที่ขาดทุนอย่างสูงไว้ได้ในระดับหนึ่ง

และในปี 1918 บริษัท Finnish Rubber Works
(FRW) ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำผลิตภัณฑ์ยางในประเทศฟินแลนด์ และเป็นหนึ่งในลูก
ค้ารายสำคัญของโรงงานผลิตไฟฟ้าของโนเกียได้มาเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของโนเกีย
หลังจากที่โนเกียไม่สามารถรองรับการขาดทุนของธุรกิจได้ จนต้องตกไปเป็นส่วน
หนึ่งของบริษัท FRW แทน

จากนั้นในปี 1922 บริษัท Cable Works ซึ่งดำเนิน
ธุรกิจด้านสายเคเบิ้ล และสายโทรศัพท์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Nokia group
จากความสนใจของบริษัท FRW แม้จะมีความหลากหลายของธุรกิจที่รวมเข้าด้วยกัน
แต่โนเกียก็ยังคงผลิตสินค้าออกมาทั้ง 3 ประเภท คือกระดาษ ผลิตภัณฑ์ยาง (รองเท้าายาง
ยางรถยนต์) และสายเคเบิ้ล โดยสินค้าทั้งหมดออกจำหน่ายในนามของโนเกีย



ยุคของอิเล็กทรอนิคกับโนเกียได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจังในปี 1977 ภายใต้
การดูแลของ Kari Kairamo ประธานบริษัท ซึ่งได้เรียนรู้ประสบการณ์จาก
การทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา แตกต่างจากรุ่นก่อน หน้านี้ที่จะมีหัวไปทางรัสเซีย
โดยผลิตสินค้าส่งออก คือ สายไปเคเบิ้ล ให้กับ ประเทศรัสเซีย Kairamo นำแนว
คิดแบบตะวันตก และแหวกแนวมาประยุกต์มุ่งเน้นให้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิคให้เข้ากับ
ยุคแห่งพลังงานจนกลายมาเป็นธุรกิจหลักของโนเกียในยุคนี้เป็นต้นมา โดยผลิตโทรทัศน์
และคอมพิวเตอร์ออกมาเบิกทางในตลาด ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการติดอันดับ
ผู้ผลิตโทรทัศน์รายใหญ่ที่สุด เป็นอันดับที่ 3 ของยุโรปเลยทีเดียว

ก้าวมาสู่ยุคแห่งการสื่อสารไร้สายในการนำของรองประธานกรรมการ
อาวุโส และกรรมการบริหารการเงิน Jorma Ollila ซึ่งดำรงตำแหน่ง
ประธานตั้งแต่ปี 1992 - 1999 และ CEO ของโนเกียในปี 1999 จน
ตราบถึงทุกวันนี้ ด้วยแนวคิดของ Ollila ภายใต้การดูแลของ Kairamo
นั้น โนเกียกับโทรศัพท์มือถือจึงได้ถือกำเนิดขึ้น



โดยในยุคแรกนั้นจะเป็น NMT Mobile Phone
Standard (Nordic Mobile Telephony) หรือโทรศัพท์
มือถืออนาล็อครุ่นแรกนั่นเอง และได้รับความนิยมอย่างสูงเมื่อเผยโทรศัพท์ NMT
รุ่นแรกในปี 1987 โดยมีสโลแกน "Connecting People" กับแนว
คิดที่ต้องการเปิดอิสระและความต่อเนื่องในการติดต่อสื่อสาร จนกระทั่งกลายมาเป็นคำ
ที่อยู่ในใจของผู้รักโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันกันถ้วนหน้า

ไม่นานระบบเครือข่ายที่ดีขึ้นก็เป็นที่ต้องการในสังคม โนเกียจึงพัฒนา
เครือข่าย GSM ขึ้นเป็นครั้งแรกให้กับ Radiolinja บริษัทของฟินแลนด์
เมื่อปี 1989 ณ จุดนี้เองที่ Nokia 1011 บรรพบุรุษของบรรดาโทรศัพท์
มือถือในยุคปัจจุบันได้ออกมาสู่สายตาของทุกคนเป็นครั้งแรกในปี 1992 จากนั้น
โนเกียก็ได้ยึดโทรศัพท์มือถือเป็นธุรกิจหลักเป็นต้นมา

โนเกียไม่ได้ผลิตเพียงแค่โทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ยังพัฒนาอุปกรณ์เสริม
และเทคโนโลยีต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กันในตัว แนวคิดแรกที่ถือว่าโนเกียเป็ยผู้บุกเบิกเลยก็
คือ ความสามารถในการเปลี่ยนหน้ากากซึ่งได้กลายเป็นลูกเล่นหลักของโทรศัพท์มือถือ
จากโนเกียในเวลาต่อมา นอกจากนี้เทคโนโลยีการสนทนาอย่าง Push - to -
Talk (PTT) กับโทรศัพท์มือถือก็มาจากโนเกียอีกเช่นกัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2006 บริษัท Siemens AG
ได้เข้ารวมกับโนเกียในการพัฒนาธุรกิจเครือข่าย มุ่งหวังจะกลายเป็นบริษัทเครือข่าย
ที่าใหญ่ที่สุด โดยมีส่วนแบ่งเท่าเทียมกันที่ร้อยละ 50 และอยู่ในนามของ Nokia
Siemens Networks คงต้องติดตามประวัติศาสตร์อีกก้าวหนึ่งของโนเกีย
ในด้านเครือข่ายต่อไปในอนาคต

ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าโนเกีย ได้กลายมาเป็นผู้นำทางด้านโทรศัพท์
มือถือที่มียอดขายสูงสุดทั่วโลก และได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยเช่นกัน ทุกวันนี้
สำนักงานใหญ่ของโนเกียก็ยังคงตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโนเกีย อย่างที่เคยเป็นมาตั้งแต่อดีตและ
ต่อไปในอนาคต

ที่มา
http://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=198505